การโดนปฏิเสธวีซ่า
หลายๆ คนโดนปฏิเสธวีซ่า แต่ก็ไม่ทราบว่าสาเหตุจริงๆ แล้วคืออะไร
บทความนี้จะรวบรวมสาเหตุและและวิธีแก้ไขที่จะไม่ทำให้โดนปฏิเสธ
1. การเงิน
อันดับแรกมาว่ากันด้วยเรื่องเงินเยอะเกินไป ไม่สอดคล้องกับงานที่ทำ หรือ เงินเยอะที่หาที่มาที่ไปไม่ได้ เช่นทำงานประจำเงินเดือนเดือนละ 20,000 บาท แต่มีเงินเข้าออกเดือนละเกือบแสน หรือหลายแสน ก็ต้องชี้แจ้งว่าสเงินเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร
ถัดมาคือเงินน้อยไป ข้อนี้ ไม่น่าห่วงเท่าข้อแรก หากคุณเดินทางด้วยวีซ่าเยี่ยมเยียนและมีคนการันตีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่หากมีเงินไม่มากพอและไม่มีคนเชิญหรือคนการันตี วีซ่าก็จะไม่ผ่านเพราะสถานทูตจะประเมินว่าคุณไม่มีเงินเพียงพอในการเดินทางไปและใช้ชีวิตอยู่ประเทศนั้นๆ
2. ว่างงาน
ข้อนี้ทางสถานทูตให้ความสำคัญประมาณหนึ่งนั้นคือ ถ้าคุณมีการงานที่มั่นคง นั้นหมายความ คุณจะต้องเดินทางกลับมาทำงานของคุณต่อแน่นอน แต่ไม่ใช่ว่างานอิสระ ขายของ ทำงานออนไลน์ งานพาร์ทไทม์จะไม่ผ่าน แต่คุณต้องวางแผนเอกสาร และเอกสารต้องครบถ้วนมีหลักฐานชัดเจนว่างานที่คุณทำคืออะไร
3. ความสัมพันธ์ไม่ชัดเจน
การไม่เคยเจอกัน เจอกันเพียงครั้งเดียว ระยะเวลาที่เจอกันน้อยเกินไป 1 วัน 3 วันเป็นต้น หรือแม้แต่การไม่มีรูปความสัมพันธ์แสดง ก็ทำให้สถานทูตประเมินได้ว่าคุณและผู้เชิญไม่มีความสัมพันธ์กัน หรือไม่ได้รู้จักกันเป็นอย่างดีถึงขั้นที่จะเชิญไปเยี่ยมเยียนได้
4. ไม่มีภาระผูกพันใดๆ ที่ประเทศไทย
พ่อแม่ที่แก่ชรา หรือเจ็บป่วย ลูกเล็ก ที่ดิน บ้าน การงาน การนัดหมายต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถใช้เป็นหลักฐานว่าคุณจะเดินทางกลับมาประเทศไทยอย่างแน่นอนเมื่อวีซ่าครบกำหนด ดังนั้นใครจะเดินทางและทำวีซ่า วางแผนเรื่องเอกสารพวกนี้ไว้ เก็บไว้แต่เนินๆ
5. ประวัติการเดินทางไม่ดี
ได้แก่อะไรบ้าง เช่น การอยู่เกินระมยะเวลาวีซ่า หรือหนีวีซ่า การลักลอบทำงานและถูกจับส่งกลับประเทศ การมีคดีความในต่างประเทศ การทำผิดกฎหมาย ณ ประเทศนั้นๆ ข้อนี้ไม่มีใครยืนยันได้ชัดเจนว่าข้อมูลของแต่ละประเทศเชื่อมถึงกันหรือไม่ แต่หากสถานทูตต้องการจะเช็ค ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะหลักฐานต่างๆ แสดงอยู่ในพาสปอร์ตของคุณทั้งหมดแล้ว แม้ว่าคุณจะไปทำพาสปอร์ตใหม่ก็ตาม คุณก็ต้องยื่นพาสปอร์ตเล่มเก่าทุกเล่มด้วยเช่นกัน
วันนี้เล่าเพียง 5 ข้อ และในอนาคตจะมาแบ่งปันประสบการณ์เพิ่มเติมอีกแน่นอนค่ะ
รับทำเอกสารวีซ่าเยี่ยมเยียนยุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย
สามารถติดต่อได้ทางไลน์ไอดี rungsym
หรือแอดไลน์ด้วยเบอร์โทร 061-7242698
เมื่อกล่าวถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็มีแต่คนกลัวกันทั้งนั้น กลัวโดนกักตัว กลัวตอบคำถามไม่ได้ กลัวฟังไม่รู้เรื่อง
ในความจริงไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นค่ะ หากเราไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย มีวีซ่าถูกต้อง ไม่เข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย หรือตั้งใจเข้าไปทำสิ่งไม่ดี
ยังไงก็ผ่านได้ค่ะ แต่เคล็ดลับในการผ่านง่ายๆ ไม่มีอุปสรรคคืออะไร วิธีนี้เราใช้มาตลอด ตั้งแต่การเดินทางครั้งแรก จนถึงทุกวันนี้แม้จะไม่ตื่นเต้นแล้ว แต่ก็ยังใช้วิธีนี้อยู่เสมอคือ
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าตม. ต้องการทราบอะไร สิ่งที่เขาต้องการทราบหรือตั้งคำถามเรามีดังนี้
1.คุณมาจากที่ไหน
2.ปลายทางคุณอยู่ที่ไหน
3.วีซ่าที่คุณใช้เข้าออกคือประเภทไหน
4.มาเยี่ยมใคร / มาเที่ยวที่ไหน
5.มีที่พักหรือยัง
6.มีตั๋วขากลับหรือไม่
7.มีประกันการเดินทางหรือไม่
คำถามหลักๆ มีเพียงเท่านี้เองค่ะ ส่วนคำถามพิเศษในกรณีที่เราตอบคำถามหลักได้ไม่ดี หรือพาสปอร์ตขาวสะอาดมากคือ
1.คนที่จะมาหาทำงานอะไร
2.เคยไปประเทศไหนมาบ้าง
3.วัตถุประสงค์ในการเดินทางคืออะไร
แต่เอาเป็นว่าถ้าตอบข้อหลักได้ดี คำถามพิเศษเหล่านี้ก็จะไม่ได้ถามเลยค่ะ
ที่นี้พอทราบแล้วว่าตม.ต้องการทราบอะไร ถามอะไรเคล็ดลับและสิ่งที่เราเตรียมคือ เอกสารค่ะ
เอกสารทั้งหมดที่จะตอบคำถามหลักทั้งหมดได้มีอะไรบ้างหล่ะ
1.เอกสารการเชิญ / จดหมายเชิญ
2.หน้าพาสปอร์ตผู้เชิญที่เรากำลังจะไปหา
3.เอกสารการจองตั๋วเดินทางขากลับ
4.ประกันการเดินทาง
5.ที่อยู่ที่เราจะไปพัก
เอกสารดังกล่าวข้างต้น ถ่ายเอกสารไว้ แล้วถือติดตังขึ้นเครื่องไปด้วย เพราะคุณจะผ่านตม. ก่อนที่คุณจะไปรับกระเป๋าที่โหลด ดังนั้น ถ้านำใส่กระเป๋าที่โหลดก็ไม่สามารถออกไปเอาได้ค่ะ ในกรณีที่ต้องการแสดงเอกสาร
รับปรึกษาวีซ่าเยี่ยมเยียน ยุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย
ทักได้ทางไลน์ rungsym
หรือแอดเบอร์โทร 0617242698
การเดินทางไปประเทศยุโรปสำหรับคนไทยนั้น จำเป็นที่จะต้องมีใบอนุญาตเข้าประเทศกลุ่ม Schengen ไม่ว่าจะเดินทางระยะสั้น ไม่กี่วัน หรือ 90 วันภายในระยะเวลา 180 วันก็ตาม วีซ่าเชงเก้นหนึ่งประเทศ โดยในกลุ่มประเทศ Schengen ทั้งหมด อนุญาตให้คุณเดินทางเข้าออกภายในกลุ่มได้ทุกประเทศตามระยะเวลาวีซ่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้สมัครวีซ่าจะต้องยื่นสมัครวีซ่า Schengen จากประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางหลัก หรือประเทศที่คุณเดินทางไปพักอยู่นานที่สุด และอีกเงื่อนไขคือประเทศที่คุณเดินทางถึงกลุ่ม Schengen ประเทศแรก
กลุ่มประเทศ Schengen ประกอบด้วยประเทศดังต่อไปนี้
ฝรั่งเศส (France)
เยอรมนี (Germany)
เดนมาร์ก (Denmark)
อิตาลี (Italy)
ฮังการี (Hungary)
กรีซ (Greece)
สวีเดน (Sweden)
สเปน (Spain)
ออสเตรีย (Austria)
เบลเยี่ยม (Belgium)
บัลแกเรีย (Bulgaria)
เอสโตเนีย (Estonia)
สโลวาเกีย (Slovakia)
สโลวีเนีย (Slovenia)
โปรตุเกส (Portugal)
โปแลนด์ (Poland)
เนเธอร์แลนด์ (Netherlands)
ฟินแลนด์ (Finland)
แลตเวีย (Latvia)
ลิธัวเนีย (Lithuania)
สาธารณรัฐเชก (Czech Republic)
ลักเซมเบิร์ก (Luxembourg)
มอลตา (Malta)
โครเอเชีย (Croatia)
โรมาเนีย (Romania)
EFTA
สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
นอร์เวย์ (Norway)
ไอซ์แลนด์ (Iceland)
ลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
และถ้าหากคุณต้องการเดินทางไปประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม Schengen นั้น ไม่จำเป็นต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องสำแดงวีซ่า แต่อาจจะมีกรณีพิเศษที่เจ้าหน้าขอดูวีซ่าโดยการสุ่มหากคุณเดินทางโดยเครื่องบิน แต่หากว่าคุณเดินทางทางรถยนต์ รถไฟนั้น ในกลุ่มประเทศ Schengen ไม่มีด่านชายแดน คุณสามารถเดินทางผ่านชายแดนได้เลย และมีเพียงป้ายแสดงไว้ว่าจุดนี้คือชายแดนของประเทศนั้นๆ เท่านั้น
สำหรับวีซ่า Schengen นั้นเป็นวีซ่าระยะสั้นที่สามารถพำนักอยู่ในกลุ่ม Schengen ได้สูงสุด 90 วัน ในรอบ 180 วัน ซึ่งกำหนดระยะเวลานั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาเท่านั้น เจ้าหน้าที่อาจจะให้จำนวนวันพำนักเต็มตามที่ผู้สมัครร้องขอ หรืออาจะให้มากกว่า น้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่
วีซ่า Schengen นั้นแบ่งย่อยได้เป็นวีซ่าอีกหลายประเภท
1. วีซ่า Schengen สำหรับการเยี่ยมเยียน ขอพำนักได้สูงสุด 90 วัน ในรอบ 180 วัน วีซ่าประภทนี้เพื่อการไปเยี่ยมเยียนบุคคลที่รู้จัก เช่น ญาติ พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก เพื่อน แฟน หรือคนรู้จัก เป็นต้น
2. วีซ่า Schengen สำหรับการท่องเที่ยว ขอพำนักได้สูงสุด 90 วัน ในรอบ 180 วัน วีซ่านี้วัตถุประสงค์คือไปเที่ยว เดินทาง โดยไม่ได้ไปเยี่ยม หรือมีคนรู้จักอยู่ที่นั้น พักโรงแรม
วีซ่ามีกี่ประเภท
วีซ่า (Visa) เป็นใบอนุญาตเข้าประเทศนั้นๆ และลงรายละเอียดว่าวีซ่าประเภทนั้นๆ ผู้ครอบครองวีซ่า สามารถทำอะไรได้บ้าง อยู่ประเทศนั้นๆ ได้กี่วัน และวัตถุประสงค์ของการเดินทางเข้าประเทศนั้นๆ คืออะไร โดยวีซ่ามีหลายประเภทแยกย่อยออกไป และหน้าตาเหมือนกันบ้าง แตกต่างกันบ้าง เช่น ประเทศในกลุ่มแชงเก้นจะติดใบอนุญาตไว้ที่พาสปอร์ตของผู้ครอบครอง สหราชอาณาจักรก็เช่นเดียวกัน ส่วนออสเตรเลียนั้นเป็นวีซ่าใบอนุญาตแบบอิเล็กทรอนิกส์ จะมีมีเอกสารใดๆ ติดในพาสปอร์ต แต่ทางออสเตรเลียจะส่งผลอนุมัติมาทางอีเมล์เท่านั้น นอนกจากนี้ ระบบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลียจะมีรายละเอียดวีซ่าทั้งหมดของเราซึ่งจะแสดงทุกอย่างบนระบบของสำนักงาน โดยผู้ครอบครองวีซ่าจะไม่ต้องกังวลว่าไม่มีเอกสารติดที่พาสปอร์ต แล้วทางการจะทราบได้อย่างไร ว่าท่านมีวีซ่าหรือไม่
วีซ่ามีกี่ประเภท และรายละเอียดเป็นอย่างไร
วีซ่าระยะสั้น
Transit Visa หรือ วีซ่าเดินทางผ่าน ตามปกติแล้วจะมีกำหนดเวลา 5 วันหรือมากกว่า วัตถุประสงค์ของวีซ่าประเภทนี้คือ เพื่อเดินทางผ่านประเทศนั้นๆ ผ่านไปยังประเทศอื่นที่เป็นจุดหมายปลายทางได้ ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องการเดินทางไปประเทศแอฟริกาใต้ แต่ในการเดินทางจำเป็นที่จะต้องต่อเครื่องยังประเทศที่คุณจำเป็นต้องขอวีซ่า และจำเป็นต้องออกมาจากนอกเขตสนามบินเพื่อเช็คอินต่อเครื่องอีกครั้ง คุณจำเป็นที่จะต้องผ่านด่านเข้าประเทศนั้นๆ ก่อนที่จะเช็คอินเข้าสนามบินเพื่อมารอต่อเครื่องอีกครั้ง ทำให้คุณควรจะต้องมีวีซ่าเพื่อขอผ่านเข้าประเทศเพื่อเดินทางต่อ
Tourist Visa หรือ วีซ่าท่องเที่ยว วัตุถุประสงค์ของวีซ่าประเภทนี้ค่อนข้างชัดเจนคือ เพื่อเดินทางท่องเที่ยวในประเทศนั้นๆ โดยไม่สามารถทำกิจอื่น เช่น ทำงาน หรือ ติดต่อธุรกิจ ระหว่างการเดินทางนั้นๆ ได้
Visitor Visa หรือวีซ่าเยี่ยมเยียน เป็นวีซ่าระยะสั้นเพื่อการเดินทงไปเยี่ยมบุคคลที่ประเทศนั้นๆ เช่นเยี่ยม ครอบครัว ญาติ เพื่อน คนรู้จัก เป็นต้น ซึ่งการเข้าพักนั้นเป็นไปได้ทั้งพักบ้านบุคคลที่ไปเยี่ยม หรือพักโรงแรม
Business Visa วีซ่าธุรกิจ คือการแสดงเจตจำนงที่ชัดเจนว่า เดินทางเข้าประเทศนั้นๆ เพื่อทำการค้า ติดต่อธุรกิจ ประชุม ดูงาน ในประเทศนั้นๆ
Copyright © 2024 letsgetvisas.com – Alle Rechte vorbehalten.
Wir setzen Cookies ein, um den Website-Traffic zu analysieren und dein Nutzererlebnis für diese Website zu optimieren. Wenn du Cookies akzeptierst, werden deine Daten mit denen anderer Nutzer zusammengeführt.